ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1208 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1131 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5262 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5371 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.14 เยน จาก 120.02 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9767 ฟรังก์ จาก 0.9741 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.6999 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7087 ดอลลาร์
ความคิดเห็นของประธาน ECB ได้ช่วยหนุนสกุลเงินยูโรให้แข็งค่าขึ้น โดยนายดรากีได้แถลงรายไตรมาสต่อสมาชิกรัฐสภายุโรปเมื่อวานนี้ว่า ECB จำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นในการประเมินว่าการขยายตัวที่ชะลอลงในตลาดเกิดใหม่เป็นแนวโน้มชั่วคราวหรือถาวร
นายดรากีกล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ ECB ก็จำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกร่วงลง และทำให้ตลาดการเงินโลกปั่นป่วนอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน นายบอสต์แจน แจซเบค สมาชิกกรรมการบริหารของ ECB กล่าวว่า เป็นการเร็วเกินไปสำหรับ ECB ที่จะหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน หรือทำการขยายเวลาสำหรับโครงการซื้อพันธบัตรออกไปจากกำหนดการเดิม
บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ถ้อยแถลงของประธาน ECB ได้สกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่า ECB จะผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในเร็วๆนี้ ซึ่งนั่นได้หนุนค่าเงินยูโรให้ปรับตัวแข็งแกร่งเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ