ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1384 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1478 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5489 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5479 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.78 เยน จาก 118.82 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9510 ฟรังก์ จาก 0.9488 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7337 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7283 ดอลลาร์
เงินยูโรปรับตัวลง หลังจากนายเอวัลด์ โนวอตนี สมาชิกสภาบริหารของ ECB ได้ออกมาสนับสนุนให้ ECB ใช้มาตรการต่างๆเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาค เมื่อพิจารณาจากเงินเฟ้อที่ยังไม่เป็นไปตามเป้า
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า ราคาผู้บริโภคในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 19 ประเทศ ปรับตัวลงสู่ระดับ -0.1% เทียบรายปีในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนที่อัตราเงินเฟ้อลดลงติดลบ จากระดับ 0.1% ในเดือนส.ค.
นักวิเคราะห์มองว่า เงินเฟ้อที่ย่ำแย่ได้เน้นย้ำถึงความเป็นไปได้ที่ ECB น่าจะดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันค่าเงินยูโร
ขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุน เนื่องจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 255,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2516 หรือต่ำที่สุดในรอบกว่า 40 ปี
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงคาดว่าดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ตลาดไม่แน่ใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอ หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้