ณ เวลา 19.02 น. ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.22% สู่ระดับ 121.37 เยน ขณะที่ยูโรทรงตัวที่ 1.0866 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้น 0.22% สู่ระดับ 131.89 เยน ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.03% สู่ระดับ 98.735
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ทะลุระดับ 35 ดอลลาร์ จากแนวโน้มที่ภาวะน้ำมันล้นตลาดจะยังคงอยู่ต่อไป จากการส่งออกของสหรัฐ, อิหร่าน และลิเบีย
ณ เวลา 19.16 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 41 เซนต์ หรือ 1.14% สู่ระดับ 35.67 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากก่อนหน้านี้ ดิ่งลงแตะ 34.42 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009
โกลด์แมน แซค คาดว่าราคาน้ำมันจะต้องทรุดตัวลงแตะระดับ 20 ดอลลาร์/บาร์เรลเพื่อทำให้กลุ่มผู้ผลิตปรับลดกำลังการผลิต
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ลงนามในกฎหมายเพื่อยกเลิกข้อห้ามส่งออกน้ำมันสหรัฐ ที่มีการบังคับใช้มานาน 40 ปี
กล่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังคงไม่มีแนวโน้มปรับลดกำลังการผลิต แต่ชาติสมาชิกกลับเร่งส่งออกมากขึ้นเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด ส่งผลให้ผลผลิตน้ำมันของโอเปกพุ่งขึ้นมากกว่า 31.5 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะนี้รัสเซียผลิตน้ำมันมากกว่า 10 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคสหภาพโซเวียต
BOJ สร้างความประหลาดใจต่อตลาดด้วยการปรับนโยบายการเงินในการประชุมวันศุกร์
คณะกรรมการ BOJ ตัดสินใจที่จะยังคงใช้นโยบายในการเพิ่มฐานเงินที่อัตราราว 80 ล้านล้านเยนต่อปี ผ่านทางการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่
อย่างไรก็ตาม BOJ ระบุว่า จะขยายระยะเวลาการซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลภายใต้โครงการผ่อนคลายทางการเงิน
แถลงการณ์ภายหลังการประชุมยังระบุว่า BOJ จะใช้จ่ายเงินราว 3 แสนล้านเยนหรือมากกว่า ในการซื้อกองทุน ETF (Exchange-raded Funds)