ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0793 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0751 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4630 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4671 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.43 เยน จาก 119.04 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0064 ฟรังก์ จาก 1.0089 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7059 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7163 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนแรงลงเมื่อเทียบยูโรและเยน หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.ที่เพิ่งมีการเปิดเผย ได้ระบุว่าการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเป้าหมายของเฟดในการหนุนเงินเฟ้อสู่ระดับ 2%
ขณะเดียวกัน เงินเยนได้รับปัจจัยบวกจากกระแสการเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและหลังจากที่เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนเป็นครั้งแรก
เมื่อวานนี้ มีการรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนในเดือนธ.ค. ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน ลดลงแตะ 50.2 จากระดับ 51.2 ในเดือนพ.ย. หลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินในเดือนธ.ค.ลดลงสู่ระดับ 48.2 จาก 48.6 ในเดือนพ.ย. ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจจีนที่ย่ำแย่
เกาหลีเหนือเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่าประสบความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจน ซึ่งถือเป็นการทดสอบด้านนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ของประเทศ ก่อนที่จะถึงวันเกิดของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือในสัปดาห์นี้