ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0849 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0837 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4359 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4259 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.48 เยน จาก 118.49 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0180 ฟรังก์ จาก 1.0155 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7014 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6972 ดอลลาร์
เฟดได้เริ่มเปิดฉากการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นในวันนี้ ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ตลาดต่างรอดูแถลงการณ์ของเฟดเพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนแรงลง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะไม่ดำเนินการใดๆเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันร่วงลงในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างก็ประเมินข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด เมื่อพิจารณาจากตลาดการเงินทั่วโลกที่ปรับตัวย่ำแย่ในช่วงเริ่มต้นปีนี้
เมื่อคืนนี้ ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 98.1 หลังแตะระดับ 96.3 ในเดือนธ.ค.
ผลสำรวจดังกล่าวบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะผันผวนในตลาดการเงิน โดยมองว่าภาวะดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ
ส่วนผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย. โดยการดีดตัวขึ้นของราคาบ้านมีสาเหตุจากการที่ปริมาณบ้านที่เสนอขายในตลาดมีจำกัด, อัตราดอกเบี้ยจำนองอยู่ในระดับต่ำ และภาวะตลาดแรงงานดีขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.3% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปี