ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1207 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1092 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4588 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4598 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 116.75 เยน จาก 117.72 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9925 ฟรังก์ จาก 1.0052 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7200 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7178 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงกดดัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นมากกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 285,000 ราย โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 280,000 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงรายงานว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตร ลดลงในไตรมาส 4 ลดลง 3.0% ซึ่งร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 1 ปีหรือนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2557 หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 2.1% ในไตรมาส 3 โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าประสิทธิภาพการผลิตในไตรมาส 4 จะลดลงเพียง 1.8%
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐร่วงลงหนักที่สุดในรอบ 1 ปีในเดือนธ.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์และอุปสงค์ที่อ่อนแอในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐร่วงลง 2.9% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557 หลังจากที่ลดลง 0.7% ในเดือนพ.ย. โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดสั่งซื้อร่วงลง 2.8% ในเดือนธ.ค.
ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และทำให้มีความไม่แน่ใจเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ ซึ่งกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง