ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1092 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1132 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4321 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4280 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.57 เยน จาก 113.83 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9953 ฟรังก์ จาก 0.9916 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7154 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7172 ดอลลาร์
ยูโรอ่อนแรงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประจำวันที่ 21 ม.ค. บ่งชี้ว่า กรรมการ ECB มีความกังวลต่อภาวะผันผวนของตลาดการเงิน และแนวโน้มที่ซบเซาของเศรษฐกิจจีน และตลาดเกิดใหม่
ขณะเดียวกัน กรรมการ ECB ยังได้หารือกันว่าภาวะอัตราเงินเฟ้อต่ำในปัจจุบันที่ระดับ 0.4% จะส่งกระทบในระยะยาวต่อค่าแรง และราคาหรือไม่ ขณะที่ ECB ตั้งเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำกว่า 2% เล็กน้อย
ความกังวลดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB อาจทำการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 10 มี.ค. โดย ECB อาจทำการเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งขณะนี้มีวงเงินอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน
ด้านดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลแรงงานที่สดใส โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งใหม่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ กระทรวงระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 262,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว และอยู่ต่ำกว่าระดับ 275,000 รายที่คาดการณ์ไว้
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 50 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1970