ณ เวลา 19.27 น.ตามเวลาไทย ยูโรดิ่งลง 1.05% สู่ระดับ 123.21 เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี และร่วงลง 0.25% สู่ระดับ 1.0998 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ โดยทรุดลงต่ำกว่า 1.1000 ส่วนดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.77% สู่ระดับ 112.04 เยน ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.14% สู่ระดับ 97.502
นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังดิ่งลง หลังการเปิดเผยตัวเลขความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีที่ลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ผู้บริหารภาคธุรกิจของเยอรมนีมีความเชื่อมั่นลดลงในเดือนก.พ.เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจปรับตัวลงสู่ระดับ 105.7 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2014 หลังแตะ 107.3 ในเดือนม.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 106.7 ในเดือนก.พ.
ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจของ Ifo ร่วงลงแตะระดับ 98.8 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2012 จากระดับ 102.3 ในเดือนม.ค.
ผลการสำรวจ Ifo บ่งชี้ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน และความผันผวนที่มากขึ้นในตลาดการเงิน กำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเยอรมนี
ค่าเงินปอนด์ร่วงลงในสัปดาห์นี้ จากการที่นักลงทุนวิตกต่อการที่อังกฤษอาจจะตัดสินใจออกจาก EU
ณ เวลา 18.33 น. ตามเวลาไทย ปอนด์อ่อนค่าลง 0.29% สู่ระดับ 1.4107 ดอลลาร์ หลังจากที่ดิ่งลง 1.4058 เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี
นายลุคแมน โอตูนูกา นักวิเคราะห์จาก FXTM Research กล่าวว่า ปอนด์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อไป ท่ามกลางความวิตกกังวลก่อนการทำประชามติเกี่ยวกับสมาชิกภาพของอังกฤษใน EU ในวันที่ 23 มิ.ย. ท่ามกลางความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจ หากอังกฤษตัดสินใจออกจาก EU
ผู้นำภาคธุรกิจของอังกฤษเกือบ 200 คนเรียกร้องให้อังกฤษยังคงอยู่ใน EU ต่อไป ขณะที่เตือนถึงความเสี่ยงต่อการลงทุน, การจ้างงาน และต่อเศรษฐกิจ หากอังกฤษตัดสินใจออกจาก EU
ทั้งนี้ ในจดหมายที่มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เดอะ ไทม์ส ผู้นำเหล่านี้ระบุว่า อังกฤษจะแข็งแกร่งขึ้น ปลอดภัยขึ้น หากยังคงอยู่ใน EU ขณะที่ภาคธุรกิจจำเป็นที่จะต้องสามารถเข้าสู่ตลาดยุโรปโดยไม่มีข้อจำกัดเพื่อให้สามารถเติบโตและมีการลงทุน
ผู้นำของบริษัทที่ลงนามในจดหมายดังกล่าวได้รวมถึงบีพี และรอยัล ดัชท์ เชลล์
จดหมายจากภาคธุรกิจฉบับนี้มีขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนจุดยืนของนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ
ก่อนหน้านี้ นายคาเมรอนเปิดเผยว่า การจัดทำประชามติในประเด็นที่ว่า อังกฤษควรจะเป็นสมาชิกของ EU ต่อไปหรือไม่นั้น จะจัดขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย.ทั่วประเทศ
นายคาเมรอนกล่าวภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเรื่องการเสนอให้อังกฤษยังคงเป็นสมาชิกใน EU ว่า เขาเชื่อว่าอังกฤษจะมีความปลอดภัยและแข็งแกร่งมากขึ้นใน EU ที่ได้มีการปฏิรูปแล้ว
อย่างไรก็ดี นายบอริส จอห์นสัน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว ประกาศสนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวออกจาก EU ในการลงประชามติทั่วประเทศ