ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1105 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1083 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4143 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4299 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.13 เยน จาก 113.82 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9873 ฟรังก์ จาก 0.9880 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7447 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7496 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลง 0.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค.
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.1% ในเดือนก.พ. โดยยอดค้าปลีกที่อ่อนแอลงในเดือนก.พ.บ่งชี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะยังคงซบเซาในไตรมาสแรก
ขณะที่สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. แต่ยอดขายภาคธุรกิจร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เนื่องจากผู้ผลิตของสหรัฐเผชิญกับยอดขายจากการส่งออกที่ร่วงลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยถูกกดดันจากภาวะอ่อนแอทางเศรษฐกิจในต่างประเทศ และดอลลาร์ที่แข็งค่า
นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟดในวันพุธที่ 16 มี.ค.ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ผลการสำรวจของสถานีโทรทัศน์ CNBC พบว่า ในบรรดาผู้ถูกสำรวจ 42 คนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท จำนวน 95% คาดว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในสัปดาห์นี้