สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) หลังจากนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในด้านบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
เงินยูโรปรับตัวลดลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1388 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1394 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.4407 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4418 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7317 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7361 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 108.45 เยน จากระดับ 107.12 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9709 ฟรังก์ จากระดับ 0.9720 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2976 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2938 ดอลลาร์แคนาดา
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากนายอีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ได้แสดงมุมมองในด้านบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวราว 2.5% ในปีนี้ พร้อมกับคาดว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 4.75%
นอกจากนี้ นายอีแวนส์ยังกล่าวว่า จุดยืนด้านนโยบายการเงินของเฟดที่จะรอคอยและจับตาข้อมูลเศรษฐกิจต่อไป ก่อนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยังคงมีความเหมาะสม ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่จะมีการขยายตัวต่อไปในปีนี้
สกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในยูโรโซนร่วงลง 0.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 4 เดือนติดต่อกัน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดค้าปลีกในยูโรโซนจะลดลงเพียง 0.1% ในเดือนมี.ค.