สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นติดต่อกัน 6 วันก่อนหน้านี้
เงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1429 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1367 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4461 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4429 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7384 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7353 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 108.46 เยน จากระดับ 109.33 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9708 ฟรังก์ จากระดับ 0.9760 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2839 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2931 ดอลลาร์แคนาดา
นักลงทุนเทขายดอลลาร์เพื่อทำกำไร เนื่องจากไม่มีปัจจัยข้อมูลเศรษฐกิจมาชี้นำตลาดในการซื้อขายเมื่อคืนนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในด้านบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
นายอีแวนส์ กล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวราว 2.5% ในปีนี้ พร้อมกับคาดว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 4.75%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลแรงงานและข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันพฤหัสบดี ทางการสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.