สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) หลังจาหสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานที่ลดลงสูงเกินคาด
เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1152 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1182 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4430 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4406 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7226 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7254 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 108.84 เยน จากระดับ 109.51 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9902 ฟรังก์ จากระดับ 0.9883 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3112 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3072 ดอลลาร์แคนาดา
ดอลลาร์สหรัฐได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 267,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 270,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่ ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่ง โดยภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 2,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัสกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังมีการปรับตัวเข้าใกล้ภาวะการจ้างงานเต็มที่
ทั้งนี้ นายแคปแลนสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมิ.ย.หรือก.ค.นี้ หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งตามที่เขาคาดไว้