เยนพุ่งขึ้นเทียบดอลลาร์และยูโรในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ไม่ได้ผ่อนคลายนโยบายการเงินหลังการประชุมวันนี้ ส่งผลให้ดอลลาร์ดิ่งหลุดระดับ 104 เยน แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2014 ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ณ เวลา 19.13 น. ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 1.54% สู่ระดับ 104.37 เยน หลังจากดิ่งลงแตะ 103.555 เยนก่อนหน้านี้ ขณะที่ยูโรทรุดตัวลง 2.22% สู่ระดับ 116.67 เยน และร่วงลง 0.72% สู่ระดับ 1.1176 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.35% สู่ระดับ 94.939
นอกจากนี้ เยนยังได้รับแรงหนุนจากการที่เฟดปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ทั้งนี้ เยนได้พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ ขณะที่ดีดตัวราว 7% เมื่อเทียบดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นเดือนนี้ จากความวิตกที่ว่าชาวอังกฤษอาจลงประชามติแยกตัวจากสหภาพยุโรปในวันที่ 23 มิ.ย.
เฟดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้งในปีหน้า โดยลดลงจากระดับ 4 ครั้งที่ระบุในเดือนมี.ค. และคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2018 ลดลงจากระดับ 4 ครั้งที่ระบุในเดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความวิตกลดน้อยลงต่อภาวะเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ เฟดยังคงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะแตะระดับ 0.9% ภายในสิ้นปีนี้ แต่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.6% ในปีหน้า ลดลงจาก 1.9% ที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค. และคาดว่าอยู่ที่ 2.4% ในปี 2018 จากระดับ 3.0% ในคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะยาวสู่ระดับ 3% จากเดิมที่ระดับ 3.3% ที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.
ขณะเดียวกัน เฟดปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.0% จากระดับ 2.2% ที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค. และคาดว่าจะขยายตัว 2.0% ในปีหน้า จากระดับ 2.1% ที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.