เงินปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายเงินปอนด์ หลังจากที่อังกฤษตัดสินใจถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1019 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1144 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.3192 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3696 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7343 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7508 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 101.99 เยน จากระดับ 102.24 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9776 ฟรังก์ จากระดับ 0.9724 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3092 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2936 ดอลลาร์แคนาดา
เงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 31 ปีเทียบดอลลาร์เมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงส่งแรงเทขาย จากความกังวลหลังจากที่อังกฤษตัดสินใจถอนตัวจากสหภาพยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ เงินปอนด์ยังอ่อนค่าลงแม้ว่าแม้ว่านายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังอังกฤษ กล่าวว่า เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรมีความแข็งแกร่ง และสามารถรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการลงประชามติเพื่อออกจากสหภาพยุโรปได้
เงินปอนด์ยังได้รับแรงกดดันหลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษลงสู่ระดับ "AA" จากระดับ "AA+" และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษลง 2 ขั้น สู่ระดับ "AA" จากระดับ "AAA" พร้อมกับเตือนว่า อังกฤษอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอีก หลังจากที่มีการลงประชามติแยกตัวจากสหภาพยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว