ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์อ่อนเทียบเงินสกุลหลัก หลังภาคการผลิตสหรัฐหดตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 2, 2016 07:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตหดตัวลงในเดือนส.ค. ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนมองว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้มีน้อยลง

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.27 เยน จากระดับ 103.44 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9796 ฟรังก์ จากระดับ 0.9832 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3103 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3121 ดอลลาร์แคนาดา

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1202 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1152 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.3275 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3128 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7554 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7516 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 49.4 ในเดือนส.ค. ลดลงจากระดับ 52.6 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 52.2

นอกจากนี้ ดัชนีได้อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ในเดือนส.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว ซึ่งหากอยู่เหนือระดับ 50 จะบ่งชี้ภาวะขยายตัว

ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอดังกล่าวส่งผลให้ตลาดปรับลดแนวโน้มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนนี้

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบ่งชี้การตัดสินใจเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟดได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า รายงานตัวเลขการจ้างงานครั้งต่อไป จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ผลการสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.8% ในเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ