ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบเงินสกุลหลัก รับจนท.เฟดหนุนขึ้นดอกเบี้ย

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) หลังจากหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 102.82 เยน จากระดับ 101.57 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9798 ฟรังก์ จากระดับ 0.9733 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3197 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3117 ดอลลาร์แคนาดา

เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1201 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1217 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2739 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2859 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7621 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7674 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เหตุผลสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากเพื่อทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม

ด้านนางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. แม้ว่าการประชุมจะมีขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐวันที่ 8 พ.ย. เพียงไม่กี่วัน พร้อมกับเน้นย้ำว่า การเมืองไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟด

นางเมสเตอร์กล่าวว่า หากข้อมูลในช่วงนี้จนถึงเดือนพ.ย.ออกมาตามที่คาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.

ทั้งนี้ นางเมสเตอร์ เป็นหนึ่งในกรรมการเฟดที่เสนอให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยเธอมองว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะไม่ทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐหยุดชะงักลง

นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.