สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1214 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1201 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.2750 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2739 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7628 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7621 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.55 เยน จากระดับ 102.82 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9740 ฟรังก์ จากระดับ 0.9798 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3165 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3197 ดอลลาร์แคนาดา
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันหลังจาก ADP และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าระดับ 181,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยในปีนี้ รวมทั้งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 166,000 ตำแหน่ง
ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 6,000 ตำแหน่ง
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในรอบ 10 ปี
ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%