สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้หรือไม่
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 104.08 เยน จากระดับ 103.55 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9806 ฟรังก์ จากระดับ 0.9740 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3212 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3165 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1153 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1214 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.2638 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2750 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7584 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7628 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวลดลง 5,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ต.ค. สู่ระดับ 249,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 257,000 ราย
ทั้งนี้ การเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ระดับต่ำดังกล่าว บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และอาจหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%