สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.98 เยน จากระดับ 103.38 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9930 ฟรังก์ จากระดับ 0.9896 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3223 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3126 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0927 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0966 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.2251 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2274 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7629 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7717 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก.ย เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.47 ล้านยูนิต
ขณะที่ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.35 ล้านยูนิต
เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย.
ส่วนสกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมเมื่อวานนี้ และได้คงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ไปจนถึงเดือนมี.ค.2560
นอกจากนี้ นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า ECB ยังไม่ปิดโอกาสในการใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้