สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้คะแนนนิยมของนางฮิลลารี และนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรรีพับลิกัน สูสีกันอย่างมาก
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 104.00 เยน จากระดับ 104.88 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9745 ฟรังก์ จากระดับ 0.9896 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3385 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3406 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1059 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0977 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.2240 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2228 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7649 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7611 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้คะแนนนิยมของนางฮิลลารี และนายโดนัลด์ ทรัมป์ สูสีกันอย่างมาก โดยผลสำรวจล่าสุดของเอบีซี นิวส์/วอชิงตัน โพสต์ ระบุว่า ข่าวการรื้อคดีของ FBI ส่งผลให้คะแนนนิยมของนายทรัมป์ขยับขึ้นมาอยู่เหนือนางฮิลลารีอยู่ 1 จุด ขณะที่ผลสำรวจจากเรียลเคลียร์โพลิติกส์ระบุว่า นางฮิลลารีมีคะแนนนิยมนำหน้านายทรัมป์อยู่เพียง 2.2 จุด จากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่มีคะแนนนำอยู่กว่า 7 จุด
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์สหรัฐยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยผลสำรวจ CNBC Fed Survey พบว่า นักวิเคราะห์ที่ถูกสำรวจทั้ง 100% เชื่อว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. แต่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมในวันที่ 13-14 ธ.ค.
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค.จาก ADP, ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนต.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)