สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.28 เยน จากระดับ 104.00 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9728 ฟรังก์ จากระดับ 0.9745 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3388 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3385 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1096 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1059 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.2294 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2240 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7661 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7649 ดอลลาร์สหรัฐ
นักวิเคราะห์กล่าวว่าดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสมากขึ้นที่จะชนะการเลือกตั้งและก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป
คะแนนนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันเริ่มตีตื้นขึ้นมานำแซงหน้านางฮิลลารี อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า FBI เตรียมรื้อฟื้นคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี
นักวิเคราะห์จากธนาคารบาร์เคลย์สคาดการณ์ว่า หากผลสำรวจคะแนนนิยมของนายทรัมป์ พุ่งแตะระดับ 50% ก็จะส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลง 4-5% และหากนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. ก็จะส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ทรุดตัวลงถึง 10-11%
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ โดยตัวเลขดังกล่าวจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของเฟดในรอบ 10 ปี
ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.9% จากเดิมที่ระดับ 5.0%