สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นกว่า 0.3% ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของยูโรโซน ซึ่งรวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ย.
ณ เวลา 19.56 น. ยูโรแข็งค่าขึ้น 0.31% แตะที่ 1.0623 ดอลลาร์สหรัฐ
ยูโรได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของยูโรโซน โดยมาร์กิต อิโคโนมิคส์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนพ.ย. อยู่ที่ระดับ 53.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2557 โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 53.5 ในเดือนต.ค.
ดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมในภาคกาคผลิตมีการขยายตัว ขณะที่ดัชนีต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราว่างงานของยูโรโซนซึ่งมีสมาชิก 19 ประเทศ ลดลงแตะ 9.8% ในเดือนต.ค. จากระดับ 9.9% ในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ อัตราว่างงานเดือนต.ค. ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2552 ขณะที่จำนวนผู้ว่างงานลดลง 178,000 รายจากเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย.ของหลายประเทศในยูโรโซน ซึ่งรวมถึงเยอรมนี กลุ่มสหภาพยุโรป และอังกฤษ โดยมาร์กิตจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 5 ธ.ค.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า ECB อาจประกาศขยายเวลาสำหรับโครงการ QE ในการประชุมสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ECB ได้เริ่มโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนม.ค.2558 และมีกำหนดสิ้นสุดโครงการในเดือนมี.ค.2560