ยูโรร่วง หลังผลประชามติชี้ชาวอิตาลีไม่เห็นด้วยแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์และเยนในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกียวกับความไร้เสถียรภาพในอิตาลี หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังผลการลงประชามติชี้ประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สกุลเงินยูโรปรับตัวลดลง 0.3% แตะที่ 1.0628 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 8.17 น.ในกรุงลอนดอนวันนี้ หลังจากที่ร่วงลงไปถึง 1.5% ในการซื้อขายช่วงก่อนหน้านี้ และแตะที่ระดับ 1.0505 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม

ขณะที่การซื้อขายในตลาดโตเกียวนั้น เมื่อเวลา 17.00 น.ตามเวลาโตเกียว เงินยูโรอยู่ที่ 1.0603-0604 ดอลลาร์ และ 120.77-81 เยน ลดลงจาก 1.0647-0657 ดอลลาร์ และ 121.07-17 เยนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.0669-0672 ดอลลาร์ และ 121.58-62 เยนในการซื้อขายที่โตเกียว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นายเรนซีได้แถลงยอมรับความพ่ายแพ้ในการลงประชามติซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดทอนอำนาจของวุฒิสภา และกล่าวว่าเขาเตรียมก้าวลงจากตำแหน่ง ตามที่เคยประกาศไว้ว่าเขาจะลาออก หากประชาชนส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ หรือโหวต NO

เทรดเดอร์ที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างเทขายเงินยูโร และเข้าซื้อเงินเยน ซึ่งถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างปลอดภัยกว่าแทน ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่าผลการลงประชามติดังกล่าวอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในยูโรโซน

ผลสำรวจความคิดเห็นแสดงให้เห็นว่าพรรคไฟว์ สตาร์ มูฟเมนท์ (5SM) พรรคฝ่ายค้านของอิตาลี ซึ่งมีจุดยืนคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและชูนโยบายนำอิตาลีแยกตัวออกจากยูโรโซน จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งก่อนกำหนดและก้าวขึ้นบริหารประเทศ

นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิดว่าตลาดการเงินยุโรปและสหรัฐจะซึมซับสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในอิตาลีอย่างไร รวมทั้งยังมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลดัชนีภาคบริการสหรัฐเดือนพ.ย.จาก ISM และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐในวันนี้ ซึ่งอาจส่งสัญญาณให้ทราบเกี่ยวกับจังหวะของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต