สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ดอลลาร์ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และยังได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีหน้า
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 117.91 เยน จากระดับก่อนหน้านี้ที่ 118.13 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0270 ฟรังก์ จากระดับ 1.0313 ฟรังก์
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0438 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับก่อนหน้านี้ที่ 1.0415 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2487 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2423 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7299 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7354 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเทขายทำกำไรสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ดอลลาร์ได้พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ภายหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.25% สู่ระดับ 0.50-0.75% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า โดยจะทำการปรับขึ้นครั้งละ 0.25%
นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านร่วงลง 18.7% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิต ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะลดลงสู่ระดับ 1.23 ล้านยูนิต ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 4.7% ในเดือนพ.ย.
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งรวมถึง จีดีพีไตรมาส 3/2559 (ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นเดือนธ.ค.โดยมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย.จาก Conference Board และการใช้จ่าย-รายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ย.