สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดอลลาร์ทะยานขึ้นแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สกัดปัจจัยบวกของรายงานที่ว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบเกือบ 10 ปี
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 117.55 เยน จากระดับ 117.71 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0261 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0286 ฟรังก์สวิส
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0428 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0392 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2343 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2361 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7304 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7255 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐถูกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรภายหลังจากที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้นั้น ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ เกือบทั้งหมด แม้ว่าสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) จะเปิดเผยข้อมูลเชิงบวกว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.61 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2007 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.0% สู่ระดับ 5.50 ล้านยูนิต
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., จีดีพีในไตรมาส 3/2559 (ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์, การใช้จ่าย-รายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน และ ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.