สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) โดยดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายปี ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนหยุดยาวช่วงคริสต์มาส
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 117.25 จากระดับ 117.62 เยน ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0279 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0257 ฟรังก์สวิส และแข็งค่าแตะ 1.3545 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3497 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0448 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0433 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2274 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2287 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7169 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7203 ดอลลาร์
สำหรับดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเปรียบเทียบสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ลดลง 0.05% แตะที่ 103.040 แต่ยังใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี
ดอลลาร์ได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาเป็นบวก โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 592,000 ยูนิต หลังจากอยู่ที่ระดับ 563,000 ยูนิตในเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 575,000 ยูนิตในเดือนพ.ย.
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค. แตะระดับ 98.2 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 98.0 รวมทั้งสูงกว่าระดับ 93.8 ในเดือนพ.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557 ได้รับปัจจัยบวกจากชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.
นักวิเคราะห์มองว่า ดอลลาร์จะยังคงแข็งค่าต่อไปในปีหน้า แต่ทั้งนี้ก็ต้องจับตาดูทิศทางแนวโน้มหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะทำงาน เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ