ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบเงินสกุลหลัก ตลาดขาดแรงกระตุ้นหลังแถลงข่าว "ทรัมป์"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 13, 2017 06:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ขณะที่ตลาดขาดปัจจัยกระตุ้นหลังจากที่นักลงทุนผิดหวังกับการแถลงข่าวครั้งแรกของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการค้า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมไปถึงนโยบายด้านภาษี

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 114.27 เยน จากระดับ 115.07 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0093 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0124 ฟรังก์สวิส

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0638 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0601 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2169 ดอลลาร์จากระดับ 1.2232 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7504 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7453 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์มองว่า นักลงทุนบางรายอาจทำการปรับโพซิชั่นของดอลลาร์ในระยะยาว ในกรณีที่รัฐบาลใหม่ของนายทรัมป์ไม่อาจจุดประกายความหวังขึ้นมาใหม่ได้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 247,000 ราย โดยต่ำกว่าระดับ 255,000 ราย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้นในเดือนธ.ค. โดยปรับตัวขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากร่วงลง 0.2% ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีราคานำเข้าได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

นายแพททริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวอย่างแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ นายฮาร์เกอร์ยังกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังดีดตัวขึ้น และจะแตะระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ในปีนี้ หรือปีหน้า

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ