ดอลลาร์แข็งค่าแตะกรอบ 113 เยน หลังทรัมป์กล่าวหาจีน-ญี่ปุ่นบิดเบือนค่าเงิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 1, 2017 11:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะกรอบ 113 เยนในช่วงเช้า แต่ยังคงอ่อนแอหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมากล่าวหาจีนและญี่ปุ่นว่าในวันก่อนหน้าว่าจงใจลดค่าเงินของตนเอง

เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 113.04-113.05 เยน เมื่อเทียบกับ 112.74-112.84 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 113.52-113.53 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อวานนี้ เวลา 17.00 น.

ยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.0796-1.0801 ดอลลาร์ และ 122.04-122.25 เยน เมื่อเทียบกับ 1.0794-1.0804 ดอลลาร์ และ 121.81-121.91 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.0699-1.700 ดอลลาร์ และ 121.46-121.50 เยน

ทั้งนี้ นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนซึ่งเป็นสิทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้าของทรัมป์ที่อาจฉุดเศรษฐกิจโลก

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้กล่าวในระหว่างการประชุมร่วมกับเหล่าผู้บริหารบริษัทยาเมื่อวานนี้ว่า "จีนและญี่ปุ่นจงใจลดค่าเงินมานานหลายปี ขณะที่สหรัฐได้แต่นั่งมองเป็นหุ่น"

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนด้านการเงินจากฝั่งญี่ปุ่นได้ออกมาปฏิเสธคำพูดของทรัมป์ โดยกล่าวว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้นเป็นไปตามกลไกของตลาด และญี่ปุ่นก็ไม่ได้บิดเบือนค่าเงินแต่อย่างใด

"ผมรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ทรัมป์พยายามจะสื่อถึงสักเท่าไหร่" นายมาซะซึกุ อาซากาวา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าว

ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ฟื้นตัวเล็กน้อยหลังร่วงลงไปอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบสองเดือนที่ 112.08 เยน ระหว่างชั่วข้ามคืนที่ตลาดนิวยอร์ก แต่ยังคงอ่อนแอหลังการออกมาพูดของทรัมป์

"ในตอนนี้นับเป็นเรื่องที่ยากที่นักลงทุนจะหันกลับมาซื้อดอลลาร์อีกครั้ง เนื่องจากญี่ปุ่นได้ตกเป็นเป้าโจมตีของทรัมป์ ขณะที่บรรยากาศการเคลื่อนไหวของค่าเงินที่ไม่แน่นอนจะยังคงมีอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง"

ด้านยูโรแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเยน ขณะที่ยังค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ