สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) ด้วยแรงหนุนจากผลการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ โดยพรรคการเมืองของนายกรัฐมนตรีมาร์ค รุตเต มีชัยเหนือพรรคคู่แข่งที่มีจุดยืนต่อต้านสหภาพยุโรป ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากแรงกดดันภายหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะไม่ดำเนินการปรับขึ้นดอกเบี้ยให้เร็วขึ้นในปีนี้
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0710 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0683 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2346 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2261 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลีย แข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7667 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7657 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.40 เยน จากระดับ 113.87 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9978 ฟรังก์สวิสจากระดับ 1.0031 ฟรังก์สวิส
ยูโรได้รับแรงหนุนให้แข็งค่าขึ้นจากผลการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ โดยพรรค VVD ของนายมาร์ค รุตเต นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์สามารถกวาดที่นั่งในสภาได้มากที่สุด แซงหน้าพรรคการเมืองคู่แข่งอย่างพรรค PVV ของนายเกิร์ต ไวล์เดอร์ส ซึ่งมีนโยบายต่อต้านสหภาพยุโรปและชาวมุสลิม โดยผลการเลือกตั้งดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของกระแสการเมืองแนวประชานิยมในยุโรป
ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันให้อ่อนค่าลงจากแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ซึ่งเฟดส่งสัญญาณที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดๆไปในปีนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน