สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนหลังตัวเลขแรงงานสหรัฐออกมาค่อนข้างดี
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0866 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0931 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2925 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2947 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7333 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7388 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 114.27 เยน จากระดับ 113.03 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0090 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9983 ฟรังก์สวิส
สำนักงานสถิติแรงงานแห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนตำแหน่งงานว่างแทบจะทรงตัวที่ 5.7 ล้านตำแหน่ง ณ วันทำการสุดท้ายของเดือนมี.ค.
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 211,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 79,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2550 หลังจากอยู่ที่ระดับ 4.5% ในเดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6%
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขภาคแรงงานที่สดใสส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 87.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า