สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) จากแรงกดดันของข้อมูลดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0976 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0920 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2894 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2879 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7416 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7391 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.70 เยน จากระดับ 113.43 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9964 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0021 ฟรังก์สวิส
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันให้อ่อนค่าลง หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) ซึ่งสำรวจจากบริษัทต่างๆในรัฐนิวยอร์กจนถึงเดือนพ.ค. 2017 ปรับตัวลง 6 จุดสู่ระดับ -1.0 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 8.0
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 2 จุด แตะระดับ 70 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากผู้สร้างบ้านมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น แม้เผชิญกับปัจจัยลบหลายประการ เช่น การขาดแคลนแรงงาน และราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวขึ้น
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.30% สู่ระดับ 98.955 เมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย