สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงแตะกรอบกลาง 112 เยนในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดโตเกียว โดยได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซา ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกต่อแนวโน้มรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 112.48-112.49 เยน เมื่อเทียบกับ 113.10-113.20 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 113.45-113.46 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อวานนี้ เวลา 17.00 น.
ยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.1109-1.1110 ดอลลาร์ และ 124.97-125.01 เยน เมื่อเทียบกับ 1.1079-1.1089 ดอลลาร์ และ 125.30-125.40 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.1028-1.1030 ดอลลาร์ และ 125.12-125.16 เยนที่ตลาดโตเกียวเย็นเมื่อวานนี้
เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านในสหรัฐลดลง 2.6% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.172 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว และต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ระดับ 1.26 ล้านยูนิต
ดีลเลอร์เปิดเผยว่า นักลงทุนยังมีความไม่มั่นใจต่อท่าทีของรัฐบาลสหรัฐด้วย จนส่งผลให้นักลงทุนไม่อยากลงทุนเสี่ยง และหันไปซื้อเงินเยนที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
กระแสวิตกดังกล่าวมีขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งปลดนายเจมส์ โคมีย์ ซึ่งขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ตามคำแนะนำของนายนายเจฟ เซสชันส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายร็อด โรเซนสไตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้เหตุผลว่า นายโคมีย์ขาดคุณสมบัติในการกุมบังเหียนผอ. FBI เนื่องจากเขามีความบกพร่องในการตรวจสอบคดีอีเมลอื้อฉาวของนางฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นคู่แข่งของทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ และนิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้เปิดเผยข้อมูลจากฝ่ายข่าวกรองเกี่ยวกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) ในระหว่างการพบปะกับนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย และนายเซอร์เกย์ คิซยัค ทูตรัสเซียประจำสหรัฐ ที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางด้านปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเพื่อกล่าวปกป้องการที่เขาได้แบ่งปันข้อมูลความลับกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย โดยระบุว่า เขาแบ่งปันข่าวกรองดังกล่าวกับทางรัสเซีย อันเนื่องจากเหตุผลด้านมนุษยธรรม และเขาต้องการให้รัสเซียดำเนินการมากขึ้นในการต่อสู้กับกลุ่ม ISIS