สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 1/2560 เป็น 1.2% ซึ่งสูงกว่าระดับ 0.7% ในการประมาณการครั้งแรก ด้วยแรงขับเคลื่อนจากภาคการลงทุนและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1175 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1204 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2808 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2938 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7449 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7455 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.23 เยน จากระดับ 111.82 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9748 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9732 ฟรังก์สวิส
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนให้แข็งค่าขึ้น หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวของจีดีพี ประจำไตรมาส 1 ปี 2560 เป็น 1.2% ซึ่งสูงกว่าระดับ 0.7% ในการประมาณการครั้งแรก และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 0.9% ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนภาคธุรกิจ และการใช้จ่ายภาครัฐที่แข็งแกร่งกว่าในรายงานเบื้องต้นเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.17% สู่ระดับ 97.417 เมื่อคืนนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ปรับตัวลดลง 0.7% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน สะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐเริ่มชะลอความร้อนแรงลง อย่างไรก็ดี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงถึง 1%
ขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นสุดท้ายของเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 97.1 จากระดับ 97.0 ในเดือนเม.ย. แต่ต่ำกว่าตัวเลขขั้นต้นที่ระดับ 97.7
ส่วนดัชนีภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันปรับตัวลดลงสู่ระดับ 111.7 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 112.7 ในเดือนเม.ย. ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 87.7 จากระดับ 87.0 สะท้อนว่าชาวอเมริกันมีมุมมองบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกันก็มีมุมมองลบมากขึ้นเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G7 ที่เมืองตาออร์มินา อิตาลี ซึ่งจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ตามเวลาทิ้งถิ่น โดยคาดกันว่า ที่ประชุมจะหลีกเลี่ยงการหารือในประเด็นการกีดกันทางการค้า เพื่อลดการกระทบกระทั่งกับสหรัฐ