สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย. โดยระบุว่า กรรมการหลายคนของเฟดมีความเห็นที่สอดคล้องกันว่า เฟดสามารถปรับลดงบดุลบัญชีโดยให้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในขอบเขตที่จำกัดได้
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1328 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1360 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2916 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2939 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7588 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7654 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.42 เยน จากระดับ 113.39 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9662 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9639 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.14% สู่ระดับ 96.348 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนให้แข็งค่าขึ้นจากรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของเฟด ซึ่งระบุว่า กรรมการหลายคนของเฟดได้สนับสนุนให้เริ่มปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ของเฟด โดยจะเริ่มดำเนินการปรับลดการถือครองหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ รวมถึงตราสารหนี้ของหน่วยงานรัฐบาล และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) หลังจากที่เฟดได้ถือครองหลักทรัพย์ดังกล่าวมาเป็นเวลานาน เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
รายงานการประชุมระบุด้วยว่า กรรมการเฟดหลายคนเชื่อว่า การปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในขอบเขตที่จำกัด อย่างไรก็ตาม เฟดไม่ได้เปิดเผยกรอบเวลาที่แน่ชัดของการดำเนินการดังกล่าว โดยในเดือนที่แล้ว คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2015 นอกจากนี้ยังเปิดเผยแผนการที่จะปรับลดงบดุลบัญชีของเฟด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เฟดมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.8% ในเดือนพ.ค. ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลงเพียง 0.5%
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศความสำเร็จในการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป พร้อมกับจับตาท่าทีของบรรดาผู้นำของประเทศต่างๆ ก่อนที่การประชุมกลุ่ม G20 จะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 174,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 138,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่า อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 4.3%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.จาก ADP, ดุลการค้าเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย. โดยมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)