สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) ด้วยแรงกดดันจากข้อมูลตลาดแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐ
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1422 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1328 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 1.2971 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2916 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7587 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7588 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.21 เยน จากระดับ 113.42 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9615 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9662 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.49% สู่ระดับ 95.814 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันให้อ่อนค่าลง ภายหลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มสู่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 248,000 ราย สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 243,000 ราย
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 174,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 138,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่า อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 4.3%