สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรและปอนด์ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเพื่อจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธนี้
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1408 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1404 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2886 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2882 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7608 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7601 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 114.07 เยน จากระดับ 114.04 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9652 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9643 ฟรังก์สวิส
นักลงทุนยังคงซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 222,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 174,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ จากระดับของเดือนพ.ค.ที่ 4.3%
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายเมื่อคืนนี้เป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธ และจากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้บริโภค (PPI) เดือนมิ.ย.