สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งสัญญาณเกี่ยวกับการพิจารณาปรับวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนก.ย.
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1625 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1518 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2976 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3025 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7961 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7957 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.87 เยน จากระดับ 111.79 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9515 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9553 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.52% สู่ระดับ 94.290 เมื่อคืนนี้
สกุลเงินยูโรได้รับปัจจัยหนุนให้แข็งค่าขึ้น ภายหลังจากนายดรากีได้กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า ECB จะทำการหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวงเงิน QE ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ แต่เขาไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่นอนแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี ประธานธนาคารกลางยุโรปแย้มด้วยว่า ECB พร้อมที่จะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หากมีความจำเป็น
นายดรากีกล่าวว่า การดำเนินนโยบายการเงินของ ECB ที่ผ่านมานั้น ได้ส่งผลให้สภาวะการเงินมีความน่าพึงพอใจ ขณะที่ความเสี่ยงต่อแนวโน้มการขยายตัวอยู่ในระดับสมดุล อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนยังไม่ส่งผลให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมาก เนื่องจากยังถูกกดดันจากราคาพลังงานที่ปรับตัวลง
นายดรากีระบุด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ไม่ได้อยู่ในระดับที่ ECB ต้องการ หรืออยู่ในระดับที่ควรจะเป็น แต่เขามีความเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะสามารถเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับเป้าหมาย 2% ของ ECB ได้ในระยะกลาง โดยจำเป็นต้องรอให้ค่าแรงและราคาแตะเป้าหมาย
เขากล่าวว่า สิ่งสุดท้ายที่ ECB ต้องการ คือการคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างไม่เหมาะสม จนส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ECB ได้จัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 233,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
ทางด้าน Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ประจำเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 0.6% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4%