สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเมืองในสหรัฐ ขณะที่สกุลเงินยูโรยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จากถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งสัญญาณเกี่ยวกับการพิจารณาปรับวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนก.ย.
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1678 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1625 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3001 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2976 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลงที่ระดับ 0.7921 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7961 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.07 เยน จากระดับ 111.87 เยน อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9440 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9515 ฟรังก์สวิส และปรับตัวลงแตะ 1.2534 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.2568 ดอลลาร์แคนาดา
สำหรับดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดดอลลาร์สหรัฐเทียบกับหกสกุลเงินหลัก ลดลง 0.44% แตะที่ 93.887 ในวันศุกร์
ภาวะการซื้อขายในตลาดเงินนิวยอร์กวันศุกร์นั้น ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยนายดรากีกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ECB ยังต้องใช้มาตรการ QE ไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อสามารถเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับเป้าหมาย 2% ของ ECB ได้ในระยะกลาง
ทั้งนี้ ที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากที่วุฒิสภาขวางการออกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า ความล้มเหลวในการผลักดันนโยบายประกันสุขภาพของทรัมป์นั้น ได้สร้างความเคลือบแคลงให้กับนักลงทุนว่า ทรัมป์จะสามารถผลักดันนโยบายที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้สำเร็จลุล่วงได้จริงหรือไม่ ซึ่งรวมไปถึงการปฏิรูประบบภาษีและการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ต่างๆอาจต้องใช้เวลามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกันความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการสอบสวนกรณีรัสเซียอาจเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้วก็ส่งผลต่อสกุลเงินดอลลาร์เช่นกัน โดยนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อัยการพิเศษอิสระที่กำลังสอบสวนกรณีรัสเซียอาจมีส่วนแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐ กำลังขยายผลการสืบสวนให้รวมถึงธุรกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเขา
ทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของปธน.ทรัมป์, นายจาเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขย และนายพอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการรณรงค์หาเสียงของปธน.ทรัมป์ มีกำหนดเตรียมเข้าให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐในสัปดาห์หน้า
การเข้าให้การของบุคคลทั้งสามเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนกรณีที่รัสเซียอาจเข้ามาก้าวก่ายการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว ผ่านการติดต่อกับบุคคลที่คอยดูแลจัดการการรณรงค์หาเสียงของปธน.ทรัมป์