ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบเงินสกุลหลัก รับข้อมูล PMI ภาคการผลิต-บริการสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 25, 2017 07:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตและบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1641 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1678 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3034 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3001 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7922 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7921 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.12 เยน จากระดับ 111.07 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9459 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9440 ฟรังก์สวิส

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.16% สู่ระดับ 94.006 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนให้แข็งค่าขึ้น ภายหลังจากไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยรายงานการสำรวจว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 54.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากแตะระดับ 53.9 ในเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ

สำหรับดัชนี PMI เบื้องต้นภาคการผลิตของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 53.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากแตะระดับ 52.0 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนี PMI เบื้องต้นผลผลิตภาคการผลิตของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 54.3 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากแตะระดับ 52.6 ในเดือนมิ.ย.

ส่วนดัชนี PMI เบื้องต้นภาคบริการของสหรัฐ ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 54.2 ในเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.

สำหรับข้อมูลเศรษฐสำคัญอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 1.8% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.52 ล้านยูนิต ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงเพียง 1% สู่ระดับ 5.58 ล้านยูนิต หลังจากที่ราคาบ้านพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลนบ้านในตลาด

นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการ FOMC จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ราคาบ้านเดือนพ.ค.โดยเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย., ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ