ดอลลาร์ร่วงลงใกล้หลุดระดับ 110 เยนในวันนี้ หลังผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการปรับตัวลงในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ การชะลอตัวของตลาดหุ้นญี่ปุ่นและสหรัฐ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง
ณ เวลา 22.14 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.56% สู่ระดับ 110.10 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.38% สู่ระดับ 130.75 เยน และดีดตัวขึ้น 0.19% สู่ระดับ 1.1876 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.08% สู่ระดับ 92.76
ผลสำรวจของ ISM พบว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM ปรับตัวลง 3.5 จุด สู่ระดับ 53.9 ในเดือนก.ค. จากระดับ 57.4 ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีภาคบริการจะปรับตัวสู่ระดับ 57.0 ในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ดี ภาคบริการของสหรัฐยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว
ปอนด์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนเทียบยูโรในวันนี้ หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้
ณ เวลา 22.36 น. ปอนด์ร่วงลง 0.59% สู่ระดับ 1.3143 ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.83% สู่ระดับ 0.9037 เทียบยูโร
ทั้งนี้ BoE มีมติด้วยคะแนนเสียง 6-2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้
นอกจากนี้ BoE ยังมีมติเอกฉันท์ 8-0 ให้คงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า BoE อาจตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี หลังการส่งสัญญาณจากกรรมการ BoE หลายคน
ทั้งนี้ ในการประชุม BoE ครั้งที่แล้วเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. กรรมการ 3 จาก 8 คนในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (MPC) ของ BoE ได้สวนมติของ MPC ด้วยการลงคะแนนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าว แม้เสียงส่วนใหญ่มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์