ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นสู่กรอบกลางของ 110 เยน โดยฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และคลายความกังวลต่อความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี
ณ เวลา 21.20 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.88% สู่ระดับ 110.57 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.28% สู่ระดับ 129.47 เยน และร่วงลง 0.66% สู่ระดับ 1.1700 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.66% สู่ระดับ 94.02
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) มีการขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีภาคการผลิตพุ่งขึ้นสู่ระดับ 25.2 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2014 จากระดับ 9.8 ในเดือนก.ค.
ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก โดยดัชนีอยู่สูงกว่าระดับ 0 เป็นเวลา 7 เดือนในปีนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. หลังจากปรับตัวลงเป็นเวลา 2 เดือนติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน และอาหาร
ทั้งนี้ ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนมิ.ย.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากขยับขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค.
ยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.ค ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดขายรถยนต์ และสินค้าฟุ่มเฟือย
ทางด้านนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่า เขาจะชะลอการตัดสินใจยิงขีปนาวุธไปตกลงในบริเวณเกาะกวม โดยจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของสหรัฐก่อน
ส่วนนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ และนายจิม แมททิส รมว.กลาโหมสหรัฐ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี
ทั้งนี้ นายทิลเลอร์สัน และนายแมททิสได้ระบุในบทความที่มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า "สหรัฐไม่มีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ หรือเร่งกระบวนการรวมชาติเกาหลี"