ยูโรดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ต่ำกว่าระดับ 1.1700 ดอลลาร์ หลังการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประจำวันที่ 20 ก.ค. บ่งชี้ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB มีความกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่ามากเกินไปของยูโร หลังจากที่ปรับตัวขึ้นนาน 6 เดือน
ยูโรดิ่งลงเกือบ 1% ในช่วงแรก หลังการเปิดเผยรายงานดังกล่าว
ส่วนดอลลาร์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 110 เยน ขณะที่นักลงทุนลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกครั้งในปีนี้ หลังการเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 25-26 ก.ค.ของเฟด ซึ่งเฟดแสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลง พร้อมกับแสดงความเห็นว่า เฟดควรรอคอยให้สถานการณ์เงินเฟ้อส่งสัญญาณดีขึ้น ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ก่อนการเปิดเผยรายงานของเฟด นักลงทุนคาดว่ามีโอกาส 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งภายในสิ้นปีนี้
ณ เวลา 21.49 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.32% สู่ระดับ 109.84 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.61% สู่ระดับ 128.84 เยน และร่วงลง 0.32% สู่ระดับ 1.1730 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.22% สู่ระดับ 93.75
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากความวิตกต่อภาวะการเมืองของสหรัฐ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยุบสภาที่ปรึกษา 2 ชุด ซึ่งได้แก่ สภาการผลิตอเมริกา และสภากลยุทธ์และนโยบาย หลังจากที่สมาชิกของสภาการผลิตอเมริกาได้พากันทยอยลาออกเพื่อประท้วงท่าทีของปธน.ทรัมป์ต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่สมาชิกของสภากลยุทธ์และนโยบายก็ได้ประกาศยุติบทบาทลง
การดำเนินการยุบสภาที่ปรึกษาทั้ง 2 ชุดมีขึ้น หลังจากที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทอินเทล คอร์ป, เมอร์ค แอนด์ โค อิงค์, อันเดอร์ อาร์เมอร์ อิงค์, 3M และแคมป์เบลล์ ซุป ได้พากันประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาการผลิตอเมริกา ขณะที่ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ผู้ชุมนุมจากกลุ่มชาตินิยมผิวขาว และกลุ่มผู้ต่อต้าน ควรต้องร่วมรับผิดชอบต่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ของนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส และนายนีล แคชแครี ประธานเฟด สาขามินเนอาโพลิส เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้