สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค. ซึ่งระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB มีความกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่ามากเกินไปของยูโร
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1744 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1775 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2879 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2885 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7907 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7917 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.69 เยน จากระดับ 110.12 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9618 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9661 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน
สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันให้อ่อนค่าลงจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของ ECB ซึ่งระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินยูโรที่สูงเกินไป นอกจากนี้ในรายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า ทาง ECB เชื่อว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนยังไม่ส่งสัญญาณที่กระเตื้องขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.3% ในเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.
ส่วนดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนให้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบางสกุล หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 12,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 232,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 25 ก.พ.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.3% หลังจากที่พุ่งขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy"
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนส.ค.ของสหรัฐ ในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย