สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) สืบเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลอยข้ามประเทศญี่ปุ่นไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากกระแสวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์" ซึ่งพัดถล่มรัฐเท็กซัส และสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1993 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1980 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2928 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2941 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7963 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7971 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.57 เยน จากระดับ 109.11 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9534 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9550 ฟรังก์สวิส
สกุลเงินดอลลาร์ยังคงถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพุ่งข้ามเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น ก่อนไปตกในน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงเช้าวานนี้ ขณะที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้กล่าวประณามการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้ว่า เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของญี่ปุ่น พร้อมกับประท้วงพฤติการณ์ที่ "อุกอาจ" ของเกาหลีเหนือ ทั้งยังเห็นพ้องกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ว่าจะใช้มาตรการกดดันเกาหลีเหนือมากขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ของอุตสาหกรรมพลังงานของสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วิย์ได้พัดถล่มเท็กซัส ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่หลายแห่งในรัฐดังกล่าว
ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของตลาด พุ่งขึ้นเกือบ 20% เมื่อวานนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ ผลสำรวจของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 122.9 ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 120.3 โดยได้แรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคประเมินสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันในทิศทางที่ดี และมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อตลาดแรงงาน
ทางด้านเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศสหรัฐในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 5.8% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 5.7% ในเดือนพ.ค. โดยราคาบ้านที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ประกอบกับอุปทานบ้านที่อยู่ในระดับต่ำ
นักลงทุนจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2560 ในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP ไตรมาส 2 จะขยายตัว 2.7% มากกว่าการประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งระบุว่า GDP มีการขยายตัว 2.6%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.จะขยายตัวเพียง 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ขยายตัวมากกว่า 200,000 ตำแหน่ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้านั้น ขณะเดียวกันคาดว่า อัตราว่างงานเดือนส.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.3%