สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) ขณะนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเสียหายน้อยกว่าที่ตลาดประมาณการไว้
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1965 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2028 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3173 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3208 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.8030 ดอลลาร์ จากระดับ 0.8063 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.32 เยน จากระดับ 107.80 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9540 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9452 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.55% สู่ระดับ 91.856 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนให้แข็งค่าขึ้น ภายหลังจากศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ (NHC) รายงานว่า พายุเออร์มาได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ขณะเคลื่อนตัวในรัฐฟลอริดา และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุดีเปรสชั่นในช่วงบ่ายของวันนี้
ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาและฮาร์วีย์ที่พัดถล่มรัฐฟลอริดา เท็กซัส และลุยเซียนาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ทำให้นักลงทุนได้ระมัดระวังการซื้อขาย เนื่องจากอยู่ในระหว่างประเมินผลกระทบของวาตภัยเหล่านี้ นอกจากนี้ ภัยพิบัติดังกล่าวยังส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมเดือนส.ค. โดย NFIB, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน