ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินสกุลหลัก รับข้อมูล PPI สหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 14, 2017 07:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นในเดือนส.ค.

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1885 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1967 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3202 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3289 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7984 ดอลลาร์ จากระดับ 0.8026 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.51 เยน จากระดับ 110.03 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9647 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9599 ฟรังก์สวิส

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.62% สู่ระดับ 92.453 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนให้แข็งค่าขึ้น ภายหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) มีการปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับลง 0.1% ในเดือนก.ค. โดยการดีดตัวของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้น 9.5% ของราคาน้ำมันเบนซิน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้แสดงความมั่นใจว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะสามารถผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีจนสำเร็จ โดยในสัปดาห์หน้านี้จะมีการเปิดเผยกรอบเวลาในการปฏิรูปภาษี ซึ่งจะสะท้อนถึงฉันทามติของผู้ร่างแผนปฏิรูปภาษีในสภาคองเกรส และรัฐบาลของปธน.ทรัมป์

ขณะที่นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้แสดงความเชื่อมั่นเช่นกันว่า รัฐบาลสหรัฐจะผลักดันการปฏิรูปภาษีให้ประสบผลสำเร็จภายในปีนี้ พร้อมกับเปิดเผยว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาให้การปฏิรูปภาษีมีผลบังคับย้อนหลังไปถึงช่วงต้นปีนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

นักลงทุนจับตาข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยข้อมูลดังกล่าวอาจเป็นตัวบ่งชี้กรอบเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ทั้งนี้ มีกระแสคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า เฟดอาจจะชะลอการคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยล่าสุด CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 41.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ