สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) ด้วยแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยืนยันว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้ทิศทางเงินเฟ้อยังคงไม่แน่นอนก็ตาม
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1800 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1839 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3458 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3467 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7893 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7944 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.15 เยน จากระดับ 111.66 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9690 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9674 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.31% สู่ระดับ 92.934 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนให้แข็งค่าขึ้น ภายหลังจากนางเยลเลน ประธานเฟดได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอเมื่อวานนี้ว่า ถึงแม้เงินเฟ้อยังอยู่ในทิศทางที่ไม่แน่นอน แต่ก็จะเป็นการไม่เหมาะสมที่เฟดจะคงนโยบายการเงินไว้จนกระทั่งอัตราเงินเฟ้อแตะระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%
"แม้ในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของเงินเฟ้อจนทำให้เฟดต้องหันเหออกจากแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เฟดก็จำเป็นต้องเปิดกว้างต่อความเป็นไปได้ดังกล่าว" เยลเลนกล่าว
ทั้งนี้ ถ้อยแถลงของนางเยลเลน ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ โดย CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 78% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 40% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ Conference Board เปิดเผยผลสำรวจว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 119.8 ในเดือนก.ย. สืบเนื่องจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา
ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนส.ค. ร่วงลง 3.4% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 560,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2/2560, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนส.ค. และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค.