สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากมีรายงานว่านางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีแนวโน้มว่านายบอริส จอห์นสัน รมว.ต่างประเทศ อาจถูกปลดออกจากตำแหน่ง
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1749 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1733 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3153 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3066 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7760 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7785 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 110.66 เยน จากระดับ 110.73 เยน ขณะที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9799 ฟรังก์ จากระดับ 0.9785 ฟรังก์
ดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 33,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี จากระดับ 4.4% ในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.ย.ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2553 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 90,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.4%
ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษเตรียมปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีแนวโน้มที่นายบอริส จอห์นสัน รมว.ต่างประเทศ อาจถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากที่มีข่าวว่าพยายามท้าทายอำนาจของนางเทเรซา เมย์
นอกจากนี้ เงินปอนด์ยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีข่าวก่อนหน้านี้ว่ามีความขัดแย้งกันในบรรดาแกนนำของพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล
ทางด้านเงินยูโรได้รับแรงหนุนหลังจากนางซาบิน เลาเทนชเลเกอร์ สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB ควรลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตั้งแต่ปีหน้า พร้อมกับมีเป้าหมายในการยุติการซื้อพันธบัตรในปีหน้าเช่นกัน เนื่องจากปัจจัยที่ได้กดดันเงินเฟ้อนับเป็นปัจจัยเพียงชั่วคราว ทั้งนี้ ECB มีกำหนดที่จะทำการตัดสินใจในวันที่ 26 ต.ค.ว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรในปีหน้าหรือไม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ ECB ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดวงเงินลง แต่จะมีการขยายเวลาในการซื้อพันธบัตรออกไป นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ รายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน