สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย. ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นเงินเฟ้อ โดยกรรมการเฟดหลายคนมองว่า เฟดควรประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1856 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1807 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 1.3218 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3204 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7785 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7783 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.35 เยน จากระดับ 112.31 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9728 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9751 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.30% สู่ระดับ 93.008 เมื่อคืนนี้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า รายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของเฟดบ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายหลายคนยังมีท่าทีที่เปิดกว้างต่อการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ถึงแม้จะมีความวิตกเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดก็ตาม
ทั้งนี้ รายงานการประชุมของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดหลายคนเชื่อว่า แรงกดดันตามวงจรที่เกี่ยวข้องกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานหรือการที่เศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไปนั้น อาจจะสะท้อนให้เห็นผ่านทางตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในระยะกลาง
นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน