สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.
ยูโรอ่อนค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1843 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1856 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 1.3281 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3218ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7831 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7785 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.20 เยน จากระดับ 112.35 เยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9748 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9728 ฟรังก์สวิส และอ่อนค่าลงแตะ 1.2460 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.2492 ดอลลาร์แคนาดา
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 243,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนส.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 251,000 ราย
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในรัฐเท็กซัส และฟลอริดายังคงปรับตัวลง หลังจากที่พุ่งขึ้นในช่วงที่ถูกพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มาพัดถล่ม
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 136 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. โดยการดีดตัวของดัชนี PPI เดือนที่แล้วนั้นได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีของราคาน้ำมันเบนซิน ขณะที่การผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัสได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 2.6% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร พลังงาน และภาคบริการ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นเดียวกันในเดือนส.ค. ขณะที่เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พื้นฐาน เพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนก.ย. หลังจากดีดตัวขึ้น 1.9% ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังซึมซับปัจจัยเรื่องแนวโน้มอัตราการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังรายงานการประชุมเฟดเดือนก.ย. ที่มีการเปิดเผยในวันพุธ ระบุว่า เจ้าหน้าที่หลายคนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด และแนะนำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อสกุลเงินอื่นๆ นั้น เงินปอนด์อ่อนค่าลงก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากที่มีรายงานว่าสหภาพยุโรปอาจขยายเวลาให้สหราชอาณาจักรอยู่ใน EU ต่อไปอีก 2 ปี ด้านเงินเยนแข็งค่าเทียบดอลลาร์ หลังผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นเผยว่า เขาตั้งใจที่จะคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป เพื่อผลักดันเงินเฟ้อให้ได้ตามเป้าที่ 2%